โลโก้เว็บไซต์ บุคลากรวิทยาลัยฯ เข้าร่วมกิจกรรมสนับสนุนโครงการสมานฉันท์ผสานบุญสร้างวัดป่ามหาวัน สัปปายะมหาสถาน | วิทยาลัยเทคโนโลยีและสหวิทยาการ

บุคลากรวิทยาลัยฯ เข้าร่วมกิจกรรมสนับสนุนโครงการสมานฉันท์ผสานบุญสร้างวัดป่ามหาวัน สัปปายะมหาสถาน

เผยแพร่เมื่อ : จันทร์ 31 มกราคม 2565 โดย นายนิพนธ์ เขื่อนแก้ว จำนวนผู้เข้าชม 476 คน

ยังไม่มีคะแนนสำหรับบทความนี้ ผู้อ่านสามารถให้คะแนนบทความได้จากปุ่มข้างใต้

ตามที่ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคโนโลยีสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ได้ตอบรับการเจริญพรจากภันเต สุมังคโล ในฐานะประธานมูลนิธิพระสารีบุตร [Sariputa Foundation] เพื่อร่วมสนับสนุน “โครงการสมานฉันท์ผสานบุญสร้างวัดป่ามหาวัน สัปปายะมหาสถาน” ณ กรุงกบิลพัสดุ์ ประเทศเนปาล [Badgau Madubandham Kapilvastu, Napal] ตามการกราบนมัสการของ ดร. ดิเรก ก้อนกลีบ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ลำปาง และ ลำพูน (พ.ศ. 2548 - 2554) โดยมีเจ้าประคุณสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ [พิจิตร ฐิตวณฺโณ] สมเด็จพระราชาคณะฝ่ายธรรมยุติกนิกาย เจ้าอาวาสวัดโสมนัสราชวรวิหาร พระอารามหลวงชั้นโท ชนิดราชวรวิหาร และ ที่ปรึกษามหาเถรสมาคม เป็นองค์ประธานส่งเสริมสนับสนุน ความแจ้งแล้วนั้น 

โดยมอบหมายให้บุคลากรในสังกัดราย ดร.อดิศร โอดศรี และ อาจารย์พนม แก้วผาดี เข้ามาร่วมเป็นคณะทำงานฝ่ายไทยเพื่อรับใช้สังคมในโครงการการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวซึ่งในระยะรัศมีที่ตั้งถูกห้อมล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนามากมาย อาทิ เฉพาะโครงการครองพื้นที่ 25 ไร่ บนป่ามหาวันอันขนาบกับสถานปฏิบัติธรรมของท่านอาจารย์โกเอ็นก้าล้อมด้วยธารน้ำจากหิมาลัย เป็นสถานที่อันหมายระลึกถึงการแสดงพระสูตร “มหาสมัย” ซึ่งเป็น 1 ใน 6 พระสูตร อันเป็น “ธัมมาภิสมัย” คือ มีพุทธานุภาพอันอลังการรุ่งเรืองยิ่ง ด้วยครั้นพระพุทธองค์ได้แสดง “มหาสมัยสูตร” นั้นแล้ว ปรากฏเหล่าเทวดาบรรลุมรรคผลเป็นจำนวนมาก คือ ประมาณ 18 โกฏิ รวมถึงมนุษย์ผู้ล้วนเป็นชั้นราชกุมารอีก 500 องค์ ผู้เพิ่งออกผนวช พระภิกษุราชกุมารทั้ง 500 รูป นั้น ต่างสำเร็จอรหันตผลทั้งหมดโดยสิ้น

การนี้คณะทำงานได้เข้าร่วมปฏิบัติงานจนสำเร็จลุล่วงแล้วในชั้นหนึ่ง คือ ร่วมจัดตั้งกองผ้าป่าหมายสร้างวิหารมหาสมัยสูตร วัดป่ามหาวัน กรุงกบิลพัสดุ์ ประเทศเนปาล ผ่านการประสานงานบอกบุญไปยังบุคคล คณะบุคคล ศิษย์เก่า และ ศิษย์ปัจจุบัน โดยได้ทำการทอดถวายแล้วเมื่อ วันที่ 16 มกราคม 2565 ณ วัดป่าดาราภิรมย์ พระอารามหลวง จ. เชียงใหม่ ยอดปัจจัยถวายทั้งสิ้น สิริ 644,519 บาท รวมถึงกิจกรรมทางส่งเสริมพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรมอื่น ๆ อาทิ การจัดเรียงสาระทางพระพุทธประวัติและสถานที่อันเกี่ยวข้อง การจัดทำหนังสือสวดมนต์มหาสมัยสูตร จำนวน 3,000 เล่ม การถวายจังหันเช้าแด่คณะสงฆ์กว่า 30 รูป ณ วัดป่าดาราภิรมย์ การถวายผ้าห่มพระเจดีย์ ณ วัดพระธาตุศรีจอมทอง และ วัดสวนดอก พระอารามหลวง เป็นต้น การนี้คณะทำงานได้เข้าร่วมปฏิบัติงานจนสำเร็จลุล่วงแล้วในชั้นหนึ่ง คือ ร่วมจัดตั้งกองผ้าป่าหมายสร้างวิหารมหาสมัยสูตร วัดป่ามหาวัน กรุงกบิลพัสดุ์ ประเทศเนปาล ผ่านการประสานงานบอกบุญไปยังบุคคล คณะบุคคล ศิษย์เก่า และ ศิษย์ปัจจุบัน โดยได้ทำการทอดถวายแล้วเมื่อ วันที่ 16 มกราคม 2565 ณ วัดป่าดาราภิรมย์ พระอารามหลวง จ. เชียงใหม่ ยอดปัจจัยถวายทั้งสิ้น สิริ 644,519 บาท รวมถึงกิจกรรมทางส่งเสริมพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรมอื่น ๆ อาทิ การจัดเรียงสาระทางพระพุทธประวัติและสถานที่อันเกี่ยวข้อง การจัดทำหนังสือสวดมนต์มหาสมัยสูตร จำนวน 3,000 เล่ม การถวายจังหันเช้าแด่คณะสงฆ์กว่า 30 รูป ณ วัดป่าดาราภิรมย์ การถวายผ้าห่มพระเจดีย์ ณ วัดพระธาตุศรีจอมทอง และ วัดสวนดอก พระอารามหลวง เป็นต้น อนึ่ง หน่วยวิจัยสนามไฟฟ้าประยุกต์ในงานวิศวกรรม ในการกำกับของ รศ. ดร. พานิช อินต๊ะ ร่วมสนับสนุนหน้ากากอนามัย [Face Mask] จำนวน 1,000 ชิ้น เพื่อสรรใช้และมอบให้แก่พุทธศาสนิกชนผู้ร่วมทำกิจกรรม โดยมี นางสาว ธมนวรรณ จิตบาล หัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานทั่วไป และ นางสาววีรินทร์ภัทร์  สมพมิตร นักวิชาการศึกษา ระดับปฏิบัติการ เข้าร่วมดำเนินกิจกรรมทางบุญด้วย

เหล่านี้จึงเป็นกุศลมูลเหตุ เป็นที่มา แห่งการดำเนินการ สิ่งที่จะได้พัฒนาที่จะสร้างถวายแด่สงฆ์โดยก็มิได้จําเพาะเจาะจงจึงมีสภาวะเป็นทั้งมหาสังฆทาน และ วิหารทาน จึงมีพละอานิสงส์หยั่งไปหน้าได้อีกเป็นอันมากนับเป็นอสงไขยอัปมาณัง ด้วยเพราะจะมีแต่ผู้ปฏิบัติ ผู้ใฝ่ทางดี เพียรหมุนเวียนกันใช้สถานที่ดังกล่าวเพื่อประกอบ เพื่อสร้างกรรมดี ดังนั้น บุญย่อมเกิดขึ้นเป็นระยะกาลอันจะนับ และ จะประมาณมิได้ เป็นขุมทรัพย์อันประเสริฐ เป็นเสบียงท่องไปในสังสารวัฏ หรือ นำพาคณะเราท่านเดินทางไปตราบถึง ณ ที่สุดแห่งแดนธรรม ฯ






ออกแบบและพัฒนาโดย สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา