ทีม วทส. โชว์ศักยภาพ 2 นวัตกรรมเด่น ในงาน MATCHING DAY 2025 ภาคเหนือ ผลักดันเทคโนโลยีสู่เศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 ณ โรงแรมดิเอ็มเพรส จ.เชียงใหม่ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) จัดงาน “มหกรรมเศรษฐกิจฐานราก : แก้จน ลดหนี้ เพิ่มรายได้ ด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสม – Appropriate Technology MATCHING DAY 2025 ภาคเหนือ” เพื่อเชื่อมโยงเทคโนโลยีพร้อมใช้จากเครือข่ายมหาวิทยาลัยในภาคเหนือสู่การแก้ปัญหาและตอบสนองความต้องการของกลุ่มคนจนฐานราก เกษตรกรรายย่อย และผู้ประกอบการในพื้นที่ พร้อมขยายการนำเทคโนโลยีไปใช้จริง ลดความเหลื่อมล้ำทางเทคโนโลยี และยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้พึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน โดยปีนี้มีผลงานผ่านการคัดเลือกจำนวน 81 ผลงาน จากผลงานที่เสนอทั้งหมด 102 ผลงาน เข้าร่วมจัดแสดงในงาน

ภายในงานนี้ ทีมอาจารย์และนักวิจัยจากวิทยาลัยเทคโนโลยีและสหวิทยาการ (วทส.) มทร.ล้านนา นำโดย ผศ.วิสูตร อาสนวิจิตร, รศ.ดร.สุบงกช โตไพบูล, อาจารย์เอกรินทร์ อินทร์ประมูล, อาจารย์พิกุลทอง ไชยมงคล, อาจารย์โบว์ ถิ่นโพธิ์วงศ์ พร้อมด้วยหัวหน้าโครงการวิจัยทั้งสองผลงาน ได้แก่ ดร.ณัฐธินี สาลี และ อาจารย์ชัชวาลย์ กันทะลา ได้ร่วมเดินทางเข้าร่วมนำเสนอและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เพื่อนำเทคโนโลยีที่เหมาะสมไปต่อยอดสู่พื้นที่จริง

ในปีนี้ วิทยาลัยเทคโนโลยีและสหวิทยาการ มทร.ล้านนา ได้นำเสนอผลงานนวัตกรรมเด่น 2 ผลงาน ได้แก่

1. นวัตกรรมต่อยอดมูลค่าดอกกุหลาบออร์แกนิคด้วยเทคโนโลยีแปรรูปอาหารที่เหมาะสม

โดยทีมวิจัยนำของ ดร.ณัฐธินี สาลี ได้พัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยสร้าง Value Chain ให้แก่ชุมชนผู้ปลูกกุหลาบออร์แกนิค ผ่านกระบวนการทำแห้ง การกลั่น และการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ไซรัป เม็ดบีดส์ และเจลลี่คริสตัล เพื่อเพิ่มมูลค่าและสร้างรายได้ให้เกษตรกรอย่างเป็นรูปธรรม

2. นวัตกรรมการประยุกต์ใช้สนามไฟฟ้าพัลล์ในกระบวนการสกัดสารสำคัญและการถนอมอาหาร

ผลงานของทีมวิจัยที่นำโดย อาจารย์ชัชวาลย์ กันทะลา ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอาหารแปรรูป เช่น ผลิตภัณฑ์แช่อิ่มและหมักดอง ช่วยผู้ประกอบการท้องถิ่นยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้แข่งขันได้ในตลาด

การเข้าร่วมของทีมอาจารย์และนักวิจัย วทส. ครั้งนี้ ไม่เพียงเผยแพร่ผลงานวิจัยสู่สาธารณะ แต่ยังเป็นการต่อยอดความร่วมมือเชิงพื้นที่ตามแนวทาง SDGs สู่การพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ลดความยากจน และส่งเสริมให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสมและจับต้องได้จริง